บทคัดย่อ
ในปี 2558 สำนักงานนโยบายและแผนทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ได้ร่วมมือกับองค์การบริหาร ส่วนตำบลตะพง เป็นพื้นที่ตัวอย่างในการจัดทำแผนผังพื้นที่สีเขียว แผนผังแสดงที่โล่ง (open - space plan) และ ผังชุมชน สำหรับใช้เป็นเครื่องมือกำหนดทิศทางการพัฒนาพื้นที่ด้วยตนเอง โดยการมีส่วนร่วมของประชาชนในพื้นที่ และต่อมาในปี 2559 สำนักงานนโยบายฯ ได้ร่วมมือกับจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และองค์การบริหาร ส่วนตำบลตะพง ในการศึกษาและพัฒนากระบวนการจัดทำผังชุมชนตะพง เพื่อเป็นเครื่องมือการบริหารจัดการพื้นที่ สีเขียวและพื้นที่โล่งในชุมชนในพื้นที่รับผิดชอบขององค์การบริหารส่วนตำบลตะพง สำหรับบทความนี้ จะได้กล่าวถึงผลผลิตหลักของการดำเนินงานโครงการในปี 2559 พร้อมทั้งบทเรียน และแนวทางการขยายผลต่อไปในอนาคต
โครงการชุมชนอยู่คู่อุตสาหกรรม
กิจกรรมการจัดทำกลไกและเครื่องมือเพื่อการอนุรักษ์และพัฒนาพื้นที่ตัวอย่าง
โดยการมีส่วนร่วมของประชาชน
1. ที่มาของโครงการ
ในปี 2558 สำนักงานนโยบายและแผนทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ได้ร่วมมือกับองค์การบริหารส่วนตำบลตะพง เป็นพื้นที่ตัวอย่างในการจัดทำแผนผังพื้นที่สีเขียว แผนผังแสดงที่โล่ง (open - space plan) และผังชุมชน สำหรับใช้เป็นเครื่องมือกำหนดทิศทางการพัฒนาพื้นที่ด้วยตนเอง โดยการมีส่วนร่วมของประชาชนในพื้นที่ และต่อมาในปี 2559 สำนักงานนโยบายฯ ได้ร่วมมือกับจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และองค์การบริหารส่วนตำบลตะพง ในการศึกษาและพัฒนากระบวนการจัดทำผังชุมชนตะพง เพื่อเป็นเครื่องมือการบริหารจัดการพื้นที่สีเขียวและพื้นที่โล่งในชุมชนในพื้นที่รับผิดชอบขององค์การบริหารส่วนตำบลตะพง สำหรับบทความนี้ จะได้กล่าวถึงผลผลิตหลักของการดำเนินงานโครงการในปี 2559 พร้อมทั้งบทเรียน และแนวทางการขยายผลต่อไปในอนาคต
2. แนวทางการพัฒนาผังชุมชนเพื่อการบริหารจัดการพื้นที่สีเขียวและพื้นที่โล่ง
เมื่อพิจารณาลักษณะการใช้ประโยชน์ที่ดินและกลไกในการบริหารจัดการ สามารถแบ่งพื้นที่สีเขียวและพื้นที่โล่ง ออกเป็น 2 ประเภท ได้แก่ (1) พื้นที่อนุรักษ์ เป็นพื้นที่ที่มีความสำคัญสำหรับระบบนิเวศ โดยเฉพาะพื้นที่ต้นน้ำ พื้นที่ป่าสงวน เป็นต้น โดยทั่วไปถูกควบคุมไม่ให้มีการบุกรุกจากการพัฒนาเมือง และไม่ให้มีกิจกรรมการใช้ประโยชน์ใดในพื้นที่ (2) พื้นที่ใช้ประโยชน์ เป็นพื้นที่ที่มีความสำคัญต่อมนุษย์ในการดำรงชีวิต โดยเฉพาะพื้นที่เกษตรกรรม พื้นที่แหล่งน้ำเพื่อการดำรงชีพ และพื้นที่ใช้สอยประจำวัน ซึ่งในโครงการนี้ ได้แบ่งเป็น 7 ประเภท ได้แก่ (ก) พื้นที่ทรัพยากรธรรมชาติและความหลากหลายทางนิเวศวิทยา (เช่น พื้นที่ชุ่มน้ำ พื้นที่ป่าชายเลน) (ข) พื้นที่เพื่อรักษาสภาพแวดล้อมและภูมิทัศน์ชุมชน (ค) พื้นที่เพื่อนันทนาการและพักผ่อน (ง) พื้นที่เพื่อการเพิ่มมูลค่าทางเศรษฐกิจ (จ) พื้นที่เพื่ออรรถประโยชน์ (ฉ) พื้นที่เพื่อการป้องกันภัยพิบัติทั้งที่เกิดจากธรรมชาติและมนุษย์สร้างขึ้น และ (ช) พื้นที่เพื่อการสาธารณประโยชน์อื่น (ภาพที่ 1) กลไกในการบริหารจัดการพื้นที่สีเขียวและพื้นที่โล่ง ประเภทพื้นที่อนุรักษ์ และประเภทพื้นที่ใช้ประโยชน์ มีความแตกต่างกัน กล่าวคือ กลไกในการบริหารจัดการพื้นที่สีเขียวและพื้นที่โล่ง ประเภทพื้นที่อนุรักษ์ใช้กลไกทางกฎหมาย เช่น พระราชบัญญัติป่าสงวนแห่งชาติ พ.ศ. 2507 ในขณะที่พื้นที่ใช้ประโยชน์ใช้กลไกทางด้านผังเมืองเป็นเครื่องมือสำคัญ
ผังชุมชนสามารถถูกผลักดันไปสู่การปฏิบัติอย่างเป็นรูปธรรมใน 3 แนวทางหลัก ได้แก่ (1) ผนวกเนื้อหาของผังชุมชนเข้าไปในแผนยุทธศาสตร์การพัฒนาท้องถิ่น (2) จัดทำเป็นเทศบัญญัติท้องถิ่น (3) ใช้กลไกทางผังเมืองตามพระราชบัญญัติการผังเมือง พ.ศ. 2518 เพื่อนำข้อมูลในผังชุมชน ไปใช้ประกอบการจัดทำผังเมืองรวม เป็นต้น
ในประเทศไทย หน่วยงานและองค์กรหลายแห่งได้จัดทำผังชุมชนในหลายพื้นที่ เพื่อเป็นเครื่องมือและกลไกสำหรับปรับปรุงแก้ไขปัญหาต่างๆที่เกิดขึ้นในชุมชน สำหรับการจัดทำผังชุมชนตะพงในครั้งนี้ มีเป้าหมายหลักเพื่อใช้เป็นเครื่องมือดูแลรักษาและพัฒนาพื้นที่สีเขียวและพื้นที่โล่ง เพื่อป้องกันการสูญเสียพื้นที่สีเขียวและพื้นที่โล่ง เพื่อนำไปสู่การพัฒนาเมืองอย่างยั่งยืนในอนาคต มีขั้นตอนสำคัญประกอบด้วย (1) วิเคราะห์ผู้มีส่วนได้ส่วนเสียและกำหนดวิธีการสร้างการมีส่วนร่วมของชุมชน (2) รวบรวมข้อมูลพื้นฐานที่เกี่ยวข้องกับแนวโน้มการพัฒนาชุมชน โดยเฉพาะข้อมูลด้านเศรษฐกิจ สังคม สิ่งแวดล้อม ความต้องการของชุมชนในพื้นที่ ความจำเป็น โอกาส และความเสี่ยงที่ชุมชนประสบอยู่หรือจะประสบในอนาคต โดยศึกษารวบรวมจากแหล่งข้อมูลต่างๆ เพื่อออกแบบกระบวนการและกำหนดประเด็นศึกษา (ภาพที่ 2 และ 3) (3) สร้างภาพอนาคตการพัฒนาชุมชนร่วมกับผู้มีส่วนได้ส่วนเสียทุกภาคส่วน เพื่อกำหนดเป้าหมายและวิธีการพัฒนาชุมชนตามที่ต้องการและคาดหวัง เพื่อใช้เป็นข้อมูลตั้งต้นในการจัดทำผังชุมชน โดยได้จัดให้มีการหารือปัญหาข้อจำกัดและทรัพยากรที่สำคัญของชุมชน การใช้ประโยชน์จากโอกาส และการรับมือกับความเสี่ยง โดยได้ข้อสรุปการพัฒนาในอนาคตที่ชุมชนตะพงต้องการ ในด้านเศรษฐกิจ ด้านสังคม ด้านสิ่งแวดล้อม (การรักษาสภาพทางธรรมชาติ การป้องกันภัยพิบัติ) (ภาพที่ 4 และ 5) (4) บูรณาการข้อมูลข้างต้นโดยผู้เชี่ยวชาญ เพื่อนำมาร่างผังนโยบาย (ผังแนวคิด) ด้านการใช้ประโยชน์ที่ดิน ด้านการพัฒนาระบบคมนาคมขนส่ง ด้านการพัฒนาระบบสาธารณูปโภคและสาธารณูปการ ด้านการบริหารจัดการพื้นที่สีเขียวและพื้นที่โล่ง จากนั้น ได้นำเสนอในที่ประชุมหารือผู้บริหารท้องถิ่น ผู้นำชุมชน ประชาชน อุตสาหกรรม และกลุ่มอื่นที่เกี่ยวข้อง ทีละกลุ่ม เพื่อแสดงความคิดเห็นอย่างเป็นอิสระ ข้อมูลที่ประมวลได้ทั้งหมดถูกนำมาวิเคราะห์และปรับปรุงร่างผังนโยบายทั้ง 4 ผัง ดังกล่าว (5) พัฒนายุทธศาสตร์ แผนปฏิบัติการ และตัวชี้วัด โดยผู้เชี่ยวชาญเป็นผู้จัดทำเพื่อบริหารจัดการพื้นที่ให้เป็นไปตามแนวทางการพัฒนาที่กำหนดไว้ในผังชุมชน จากนั้น ได้นำเสนอในที่ประชุมสัมมนาระดมความคิดเห็น เพื่อปรับปรุงรายละเอียดเป็นขั้นตอนสุดท้าย (ภาพที่ 6)
อย่างไรก็ตาม เพื่อก่อให้เกิดผลลัพธ์อย่างเป็นรูปธรรมในพื้นที่ได้จริง (ร่าง) ข้อบัญญัติดังกล่าวที่เกิดจากการดำเนินงานโครงการในขั้นตอนนี้จะต้องถูกนำเสนอต่อประชาชนเพื่อรับฟังความคิดเห็น และต้องได้รับความเห็นชอบจากสภาท้องถิ่น พร้อมทั้งผ่านขั้นตอนที่เกี่ยวข้องเพื่อการประกาศใช้ต่อไป นอกจากนี้ ยังต้องมีกระบวนการผลักดันให้เกิดการขับเคลื่อนการดำเนินงานตามของยุทธศาสตร์ แผนงาน โครงการ และมาตรการดังกล่าว เพื่อสามารถดูแลรักษาและพัฒนาพื้นที่สีเขียวและพื้นที่โล่งประเภทพื้นที่ทรัพยากรธรรมชาติและความหลากหลายทางนิเวศวิทยา และพื้นที่เพื่อการป้องกันภัยพิบัติทั้งที่เกิดจากธรรมชาติและมนุษย์สร้างขึ้น ได้อย่างยั่งยืนตามความต้องการของชุมชน
3. ข้อคิด ประโยชน์ และแนวทางการขยายผลโครงการในอนาคต
สำหรับนักวิชาการที่สนใจจัดทำผังชุมชนในพื้นที่อื่นหรือต่อยอดขยายผลต่อไป มีข้อคิดและข้อสังเกต ได้แก่ (1) ความตั้งใจและร่วมมืออย่างต่อเนื่องของผู้บริหารและบุคลากรขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น รวมทั้งผู้นำชุมชน เป็นปัจจัยหลักแห่งความสำเร็จ ดังนั้น คณะผู้ศึกษาต้องสื่อสารให้ข้อมูลเพื่อสร้างความรู้และความเข้าใจตั้งแต่เริ่มต้นโครงการ และเป็นระยะๆ จนสิ้นสุดโครงการ (2) ในกรณีที่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นมีการจัดตั้งคณะทำงานที่ประกอบด้วยผู้บริหารและบุคลากร สมาชิกสภาท้องถิ่น ผู้นำชุมชน ผู้แทนหน่วยงานในพื้นที่ จะเป็นกลไกสำคัญที่ช่วยสนับสนุนให้การดำเนินงานโครงการเป็นระบบ และสามารถสร้างเครือข่ายชุมชนที่มีประสิทธิภาพ (3) ในการวางแผนการสำรวจพื้นที่ควรใช้ประโยชน์จากข้อมูลพื้นฐานที่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นมีอยู่ให้มากที่สุด โดยควรพิจารณาใช้ข้อมูลในแผนที่ภาษี (หากมี) เนื่องจากมีข้อเท็จจริงที่สำคัญ เช่น ขอบเขตหมู่บ้าน กรรมสิทธิ์ที่ดิน การใช้ประโยชน์ที่ดิน นอกจากนี้ คณะผู้สำรวจควรประกอบด้วยผู้แทนชุมชน ผู้แทนองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และผู้แทนหน่วยงานในท้องถิ่น เพื่อให้การชี้เป้าหมายพื้นที่และการสำรวจเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ ถูกต้องและรวดเร็ว มีการมีส่วนร่วมของประชาชน และผลการสำรวจพื้นที่ควรนำมาจัดทำระบบฐานข้อมูลสารสนเทศภูมิศาสตร์ (GIS) เพื่อสามารถประยุกต์ใช้ประโยชน์สำหรับการบริหารจัดการได้อย่างกว้างขวางต่อไป (4) คณะผู้ศึกษาและจัดทำผังชุมชน ควรประกอบด้วยผู้เชี่ยวชาญด้านผังเมือง การพัฒนาเมือง การออกแบบชุมชน ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม การมีส่วนร่วมและการประชาสัมพันธ์ สารสนเทศภูมิศาสตร์ และบุคลากรสนับสนุนเพื่อบันทึกข้อมูลและถ่ายภาพ
บรรณานุกรม
มัธยา รักษาสัตย์. (2558). โครงการชุมชนอยู่คู่อุตสาหกรรม (ตอนที่ 1). วารสารทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม,
สำนักงานนโยบายและแผนทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม. ปีที่ 4 (ฉบับที่ 2) เมษายน – มิถุนายน, หน้า 34-47
มัธยา รักษาสัตย์. (2558). โครงการชุมชนอยู่คู่อุตสาหกรรม (ตอนที่ 2). วารสารทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม,
สำนักงานนโยบายและแผนทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม. ปีที่ 4 (ฉบับที่ 3) กรกฎาคม – กันยายน, หน้า 30-37
สำนักงานนโยบายและแผนทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม. (2559). คู่มือการจัดทำผังชุมชน เพื่อการพัฒนาชุมชนสีเขียวอย่างยั่งยืน. กรุงเทพฯ: ห้างหุ้นส่วนจำกัด สุภชัย สุขสำราญ.
สำนักงานนโยบายและแผนทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม. (2559). โครงการชุมชนอยู่คู่อุตสาหกรรม: กิจกรรมการจัดทำกลไกและเครื่องมือเพื่อการอนุรักษ์และพัฒนาพื้นที่ตัวอย่าง โดยการมีส่วนร่วมของประชาชน. รายงานฉบับสุดท้าย. กรุงเทพฯ: ห้างหุ้นส่วนจำกัด สุภชัย สุขสำราญ.
สำนักงานนโยบายและแผนทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม. (2559). เอกสารถอดบทเรียน. โครงการชุมชนอยู่คู่อุตสาหกรรม: กิจกรรมการจัดทำกลไกและเครื่องมือเพื่อการอนุรักษ์และพัฒนาพื้นที่ตัวอย่าง โดยการมีส่วนร่วมของประชาชน. กรุงเทพฯ: ห้างหุ้นส่วนจำกัด สุภชัย สุขสำราญ.