บทความ: สบู่เหลวโพแทสเซียม ทางเลือกของการเพิ่มมูลค่าและศักยภาพของชุมชนในการจัดการน้ำมันพืชใช้แล้วได้ด้วยตัวเอง - การทดสอบใช้เป็นสารทำความสะอาดพื้นและรถเก็บขยะ
เป็นขยะอินทรีย์ที่เกิดขึ้นจากกระบวนการประกอบอาหาร การจัดการ UCO ไม่ถูกวิธีจะส่งผลเสียต่อระบบสาธารณสุขและสิ่งแวดล้อม ได้แก่
1) การเท UCO ลงท่อระบายน้ำ
o การอุดตันระบบท่อระบายน้ำทำให้เกิดน้ำท่วม/น้ำรอการระบาย
o ทำให้ระบบการบำบัดน้ำเสียล้มเหลว
2) การปนเปื้อน UCO กับขยะมูลฝอย
o ทำให้เกิดการย่อยสลายแบบไร้อากาศในหลุมฝังกลบ เป็นแหล่งปลดปล่อยก๊าซเรือนกระจกทำให้เกิดสภาวะโลกร้อน
o ปนเปื้อนกับขยะที่สามารถรีไซเคิลได้ ทำให้ขยะรีไซเคิลดังกล่าวไม่สามารถถูกนำไปใช้ประโยชน์ได้
3) การนำ UCO กลับมาใช้ประกอบอาหารซ้ำ
o ส่งผลเสียต่อสุขภาพ มีสารก่อโรคมะเร็ง
การจัดการ UCO ในปัจจุบัน คือ จะมีผู้รับซื้อ UCO ดังกล่าวเพื่อนำไปชายต่อให้กับโรงงานผลิตไบโอดีเซล แต่ทว่าจะรับซื้อในปริมาณมาก ๆ เท่านั้น ด้วยเหตุนี้เองทำให้ UCO ของภาคครัวเรือนที่มีปริมาณต่อครัวเรือนน้อยกว่าร้านอาหารและโรงแรม ไม่ได้รับการจัดการอย่างถูกต้อง
Re-FOG ชุดแปรรูปน้ำมันพืชใช้แล้ว มีส่วนผสมของสารเคมีที่สามารถแปรสภาพน้ำมันพืชใช้แล้วให้เป็น สบู่เหลวโพแทสเซียม (Potassium soap; K-Soap) มีคุณสมบัติเช่นเดียวกับน้ำยาล้างจานและน้ำยาซักผ้า สามารถนำไปใช้ทำความสะอาดพื้นถนน ผ้าขี้ริ้ว หรือยานพาหนะได้ โดย K-Soap สามารถย่อยสลายได้เองตามธรรมชาติ ปลอดภัยต่อระบบบำบัดน้ำเสีย
ชุดแปรรูป Re-FOG มีด้วยกันหลายขนาดตามความต้องการของผู้ใช้ ทั้งขนาด 1 ลิตร สำหรับแปรรูป UCO ให้เป็น K-Soap เข้มข้น 5 ลิตร และขนาดอุตสาหกรรม ที่ปัจจุบันมีการนำไปทดสอบการผลิต K-Soap โดยถ่ายทอดวิธีการใช้ Re-FOG และพัฒนากระบวนการผลิตร่วมกับวิสาหกิจชุมชนบ้านไผ่เหลือง จังหวัดน่าน และระดับชุมชน ที่ชุมชนปากลัด จังหวัดสมุทรปราการ โดยได้เก็บรวบรวม UCO จากธนาคารขยะของชุมชน
โครงสร้างทางเคมีของ K-Soap คือ เกลือโพแทสเซียมของกรดไขมัน (Potassium salt of fatty acid) จะประกอบไปด้วย 2 ส่วนหลัก คือ 1) กรดไขมันจากน้ำมันพืชซึ่งไม่ละลายน้ำ (ไม่มีขั้ว) และ 2) ประจุโพแทสเซียม ซึ่งละลายน้ำได้ดี (มีขั้ว) ทำให้ K-Soap มีคุณสมบัติในการละลายได้ทั้งน้ำมัน (ไม่มีขั้ว) และน้ำ (มีขั้ว) เรียกว่า สารลดแรงตึงผิว (Surfactant) ซึ่งเป็นสารประเภทเดียวกันกับน้ำยาล้างจาน ผงซักฟอก และสบู่ทำความสะอาด
นอกจากพื้นถนน K-Soap ยังได้ถูกทดสอบในการล้างคราบสกปรกของรถเก็บขยะ ของเทศบาลเมืองน่าน โดยทดสอบกับเครื่องฉีดน้ำแรงดันสูงที่ใช้ล้างรถเก็บขยะ ร่วมกับอุปกรณ์สร้างโฟมสำหรับการล้างรถ ซึ่งโฟมที่ได้นั้นสามารถยึดเกาะบนพื้นผิวของส่วนบีบอัดขยะและล้อได้ดี สามารถคงตัวได้นานมากกว่า 10 นาที จากการสัมภาษณ์เจ้าหน้าที่คนขับรถเก็บขยะ มีความพอใจเป็นอย่างมาก ในด้านความสะอาด และความสะดวกสบายในการใช้งาน K-Soap ในการทำความสะอาดรถเก็บขยะ โดยรถขนขยะ 1 คัน จะใช้ K-Soap ประมาณ 300 มิลลิลิตร
ด้วยคุณสมบัติการเป็นสารลดแรงตึงผิว K-Soap ยังสามารถถูกนำไปประยุกต์ใช้ได้อีกหลายอย่าง โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ในภาคการเกษตร มาตรฐานเกษตรอินทรีย์ของประเทศไทย ได้อนุญาตให้สามารถใช้ เกลือโพแทสเซียมของกรดไขมัน หรือ K-Soap เพื่อเป็นสารทำความสะอาด และสารกำจัดแมลง ในแปลงเกษตรอินทรีย์ได้ เนื่องจาก K-Soap มีความเป็นพิษที่ต่ำมาก และสามารถย่อยสลายได้เองตามธรรมชาติ ภายในระยะเวลาเพียง 5 วัน ซึ่งเมื่อย่อยสลายเสร็จจะเป็นปลดปล่อยแร่ธาตุโพแทสเซียมให้แก่พืช
บทความนี้เป็นส่วนหนึ่งของโครงการวิจัยเรื่อง เที่ยวน่าน ใส่ใจ ไร้คาร์บอน: การพัฒนารูปแบบการท่องเที่ยวคาร์บอนต่ำ สำหรับการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืนในจังหวัดน่าน เพื่อนำไปสู่แหล่งท่องเที่ยวการปล่อยคาร์บอนสุทธิเป็นศูนย์ โดย สถาบันวิจัยสภาวะแวดล้อม จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ได้รับงบประมาณสนับสนุนจากสำนักงานสภานโยบายการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรมแห่งชาติ โดยหน่วยบริหารและจัดการทุนด้านการเพิ่มความสามารถในการแข่งขันของประเทศ (บพข.) ปีงบประมาณ 2564 และผู้เขียนขอขอบคุณ โครงการขับเคลื่อนการจัดการขยะอย่างยั่งยืนด้วยแนวคิดปลอดขยะ (Zero-Waste): กรณีศึกษาชุมชนบ้านปากลัด จังหวัด สมุทรปราการ ได้รับการสนับสนุนจากกลุ่มบริษัทดาวประเทศไทย ที่ให้ได้โอกาสเชิญไปร่วมจัดการอบรมเชิงปฏิบัติการ